August 16, 2015 | Technique
จากบทความครั้งก่อน “ปัจจัยการทำ seo ให้ติดหน้าแรก“ กันไปแล้ว คราวนี้จะลองนำปัจจัยที่พูดถึงมาลองทดลองกันดูเลยว่าผลจะเป็นอย่างไร ด้วย การทำ SEO ให้ติดหน้าแรก โดย WordPress
วันนี้จะมาเสนอตัวอย่าง การทำ SEO ที่ได้มีโอกาสได้ทำจริงๆ ไปแล้ว วันนี้จะรวบร่วมวิธีการคิด และ วิธีการทำ SEO มาเล่าให้ฟังเป็น Step by Step กับ “การใช้ Influencer Marketing” ทั้งหมดจะถูกทำโดย WordPress อย่ารอช้า ไปลุยกันเลย
SEO on-page เป็นสิ่งแรกที่จะช่วยให้มีโอกาสเจอได้มากขึ้นในการค้นหา ซึ่งการทำ SEO onpage จะประกอบด้วยกันหลายเครื่องมือที่จะเอามาใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น Google Keyword Planner (เครื่องมือหาคีย์เวิด), WordPress (เครื่องมือจัดการเว็บไซต์) และ Plugin สำหรับการทำ SEO
7 ขั้นตอน การทำ SEO onpage
1.วิจัยคีย์เวิร์ด
การทำวิจัยคีย์เวิร์ดคือการค้นหาคนที่มีคนค้นหาตามความเป็นจริง และ นำมาปรับใช้ในเนื้อหาที่เรากำลังจะเขียนบทความ หรือ ขายสินค้า โดยใช้เครื่องมือ google keywords planner
ตัวอย่างจากการทำคือ คำว่า “influencer” ในประเทศไทย วิเคราะห์แล้วว่า คู่แข่งไม่ได้มาก
2.กระจายคีย์เวิร์ดมาเขียนเป็นบทความ 5% ของบทความ
นำคีย์เวิร์ดที่หาได้ มาทำการเขียนบทความ โดยกระจายคีย์เวิร์ดให้ทั่วในบทความ ควรมีประมาณสัก 5% ของจำนวนคำในบทความ มันจะทำให้ Google เห็นว่า คำนี้มันสำคัญ จะทำให้มีคะแนนสูงมากขึ้นในการทำ SEO
ให้เวลาสองนาทีนำดูว่า เจอคำว่า “influencer” กี่ครั้ง ใครตอบถูก รับไปเลย รางวัลจากผม คือ คำชมว่า คุณเก่งมาก ที่จนครบ ^^
และในการเขียนบทความนั้นๆ ควรมี Link ที่ส่งต่อไปหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์เรา และ ส่งออกไปยังหน้าอื่นด้วย
3.ตั้งชื่อ ไฟล์เป็นคีย์เวิร์ด
ควรตั้งชื่อมีเดียทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือ vdo ให้มี คีย์เวิร์ด เป็นชื่อไฟล์เสมอ เพราะว่า การค้นหาไม่ว่าจะเป็นคนหาจากรูป หรือ youtube ก็จะมีโอกาสเจอเรามากขึ้น ทำให้มีทราฟฟิก ก็จะทำให้เพิ่มอันดับเราได้มากขึ้นนั้นเอง
4.ตั้งชื่อ Title ให้โดน และ มีคีย์เวิร์ดผสมอยู่
การตั้งชื่อ Title หรือชื่อเรื่อง ก็ต้องตั้งให้โดนใจผู้อ่าน และ ควรพยายามไม่ให้เกิน 60 ตัวอักษร และมีคีย์เวิร์ดแทรกอยู่ในนั้น ซึ่งมีผลต่อการคลิก ถ้าชื่อเรื่องดีโอกาสคลิกก็สูง เมื่อคลิกสูง Google ก็จะมองว่า เนื้อหาดี ติด SEO ได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างของผมก็เป็น “การใช้ Influencer Marketing” ตรงตัวสั้นๆ
5.เขียน Description ให้อยากเข้ามาอ่าน โดยแทรงคีย์เวิร์ดไปด้วย
คำอธิบายและเชิญชวนให้คนเข้ามาอ่านบทความเรา อาจจะชวนแล้ว สร้างให้เกิดการ คลิก เข้ามาดูในเว็บไซต์เรา ก็จะช่วยให้มีโอกาสการกดเข้ามามากขึ้น เช่น “…. คลิก” “คลิกเดี๋ยวนี้” ยังไงก็แล้วแต่ คำอธิบายตรงนี้ทั้งหมด ไม่ควรเกิน 160 ตัวอักษร ร่วมทั้งมีคีย์เวิร์ดอยู่ด้วย ซึ่งที่ต้องไม่เกิน 160 ตัวอักษร ไม่ใช่ไรนะ มากกว่านี้ Google มองไม่เห็น
6.ใช้ plugin เกี่ยวกับ SEO ของ WordPress ให้เซียน
Plugin ที่คนส่วนใหญ่ใช้มีอยู่ 2 ตัว All in one SEO กับ SEO by Yoast ซึ่งแล้วแต่เลือกใช้ ตามความชอบ imwritingrich.com ใช้ All in one SEO ส่วนเว็บไซต์ของลูกค้าที่ทำใช้ SEO by Yoast การใช้งาน All in one SEO มีหน้าตาแบบนี้ (จะเอาข้อ 4 และ 5 มาทำให้ดูในนี้)
7.กด Public บทความ
ขั้นตอนนี้คือ กดให้บทความนั้น อยู่บนเว็บไซต์เรานั้นเอง
SEO off-page เป็นสิ่งทำเพื่อให้บทความนั้นออกไปหาผู้คนให้ได้มากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้มันก็จะทั้งส่วนที่เร ควบคุมได้ และ ไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับบทความนั้นมันดีจริงจนคนส่วนใหญ่อยากส่งต่อหรือไม่
4 ขั้นตอน การทำ SEO offpage
1.แชร์ไปใน Social Media ทุกตัวที่เรามี
ผมใช้การแชร์ไปที่ facebook imwritingrich.com คลิกให้รวย พร้อมทั้ง จากเงินค่าโฆษณาโปรโมทก็ทำให้มีทราฟฟิกวิ่งเข้าเว็บไซต์มากขึ้น
2.เมื่อเวลาผ่านไปนำ บทความนั้นๆ มาทำให้คนเห็นใหม่อีกครั้ง
ต่อมาสัปดาห์ สองสัปดาห์ลองนำบทความนั้นมา post ใหม่อีกครั้ง ให้คนที่เคยเห็นได้ลองอ่านกัน เป็นการเพิ่มทราฟฟิกให้คนวิ่งเข้ามาบทเว็บมากขึ้นโอกาสการติด SEO มากขึ้น
3.สร้างกลุ่มให้คนเห็นบทความของเราไปเรื่อยๆ
เมื่อโฆษณาออกไปก็จะมีคนสนใจเรามากขึ้นเรื่อยๆ page มีคนตามมามากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งแชร์เยอะ ยิ่งมีคนเห็นเยอะ ขึ้นเช่นกัน
4.ลุ้นให้บทความนั้นถูกกระจายโดยคนที่พบเห็น
ปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ทำได้แค่ลุ้น แต่จริงๆ ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แค่ก่อนจะทำอะไรเนื้อหาที่ออกไปมันต้องดีและเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเท่านั้นเอง ถ้าดีจริง ก็จะมีคนแชร์ต่อไม่ต้องแปลกใจ
ผลลัพท์จากการทำ SEO ในครั้งนี้ จากคีย์เวิร์ด 3 ตัว “การใช้ influencer, influencer, influencer marketing” หลังจากปล่อยมา 1 เดือน (ลองนำไปค้นหาใน Google ได้เลยครับ ^^)
- “การใช้ influencer” ติดหน้าแรก
- “influencer marketing” ค้นหาในประเทศไทยติดหน้าแรก
- “influencer” ค้นหาในประเทศไทยติดหน้าสาม
ผลสรุปจากการทดลองในการทำ
1.เนื้อหาที่ทำต้องดีและเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นมากๆ ทำให้เกิดการแชร์ต่อ
2.คีย์เวิร์สเป็นสิ่งสำคัญ ทำวิจัยดีๆ
3.นึกถึงปัจจัยการทำ SEO เสมอ (ตามที่เคยเขียนไว้ครั้งก่อน) ถึงแม้มันจะเปลี่ยนเสมอ
4.โปรโมทให้คนได้เห็น และ สร้างกลุ่มของตัวเองขึ้นมา
ทั้งหมดนี้เป็นแค่การทดลองซึ่งนำไปใช้ได้ เรียนตามตรงว่า ยังไม่เวิคที่สุด แต่กำลังพยายามทำให้เวิคมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำข้อมูลมาแบ่งปัน และ เล่าสู่กันฟังต่อไป
ภาณุพงศ์ ศุภะรัชฏเดช(อู๋)
Tags: SEO